ในบทความนี้ English Munmun จะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ “คำอุทานภาษาอังกฤษ” ยอดฮิตติดปากฝรั่ง ไม่ว่าจะเป็นในหนัง ซีรีส์ หรือชีวิตจริง ทุกคนก็อาจจะได้ยินคำเหล่านี้กันได้อยู่บ่อย ๆ เท่านั้นไม่พอ ยังมีวิธีใช้แต่ละคำพร้อมตัวอย่าง เผื่อว่าใครในที่นี้จะอยากนำไปใช้ให้การพูดภาษาอังกฤษของตัวเองดูเป๊ะปังแบบสายฝ.มากขึ้น ถ้าพร้อมแล้ว…ไปดูกันเลย!
10 คำอุทานภาษาอังกฤษ (Interjections) ฮิตติดปากฝรั่ง
1. คำอุทาน คืออะไร?
คำอุทาน (Interjections) คือ คำประเภทหนึ่งที่มักถูกใช้ในแต่ละประโยคเพื่อเสริมบทสนทนา เป็นคำที่ผู้พูดใช้เพื่อถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกให้ผู้ฟังรับทราบ ซึ่งคำอุทานภาษาอังกฤษก็มีอยู่มากมายหลายคำที่มีความใกล้เคียงกันกับคำอุทานในภาษาไทย อาจมาในรูปของคำเดียวโดด ๆ หรือจะเป็นในรูปของวลีก็ได้
2. คำอุทานภาษาอังกฤษและเครื่องหมายวรรคตอน
ในการสื่อสารหรือรับสารผ่านตัวอักษร ไม่ว่าจะเป็นการแชตคุยกับเพื่อนหรืออ่านหนังสือนวนิยายเล่มโปรด บ่อยครั้งที่เราจะเห็นว่าคำอุทานมาพร้อมกับเครื่องหมายวรรคตอน (Punctuation) ซึ่งเครื่องหมายที่เรามักจะเห็นได้บ่อยที่สุดเลยก็คงจะเป็นเครื่องหมายอัศเจรีย์ หรือ Exclamation mark (!) ที่จะช่วยบอกถึงความรุนแรงของอารมณ์ของผู้พูด แต่ก็ไม่ใช่ทุก ๆ คำอุทานที่จะมาคู่กับเครื่องหมายวรรคตอนนี้เสมอไป ดังนั้น การทำความรู้จักกับเครื่องหมายวรรคตอนในภาษาอังกฤษ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้เราเข้าใจสารที่ผู้พูดต้องการจะสื่อได้ดียิ่งขึ้น
3. Hm
คำว่า Hm เป็นคำอุทานภาษาอังกฤษที่เทียบได้กับคำว่า อืม ในภาษาไทย มักใช้เพื่อแสดงถึงการครุ่นคิดบางสิ่งบางอย่างก่อนการตัดสินใจหรือพูดอะไรออกมา แต่เมื่อใดก็ตามที่คำอุทานภาษาอังกฤษคำนี้ตามท้ายด้วยเครื่องหมายปรัศนี หรือ Question mark (?) จะมีความหมายเหมือนกับคำว่า หืม? ในภาษาไทยที่มักใช้เมื่อเกิดความสงสัยในสิ่งที่ใครสักคนได้กล่าว หรือใช้เพื่อต้องการให้ใครสักคนกล่าวบางสิ่งบางอย่างซ้ำอีกรอบ
ตัวอย่าง:
Hmm, I don’t think this is a good idea.
(อืมม ฉันไม่คิดว่านี่เป็นความคิดที่ดีนะ)
Hm? Did you just say she is a good person?
(หืม? เมื่อกี้คุณบอกว่าเธอเป็นคนดีเหรอ?)
4. Ew
คำว่า Ew เป็นคำอุทานภาษาอังกฤษที่เทียบได้กับคำว่า อี๋ ในภาษาไทย มักใช้เพื่อแสดงความรู้สึกรังเกียจหรือขยะแขยงในบางสิ่งบางอย่างของผู้พูด ซึ่งก็ยังมีคำอุทานภาษาอังกฤษอื่น ๆ ที่สามารถนำมาใช้ในบริบทนี้ได้เช่นเดียวกัน เช่น คำว่า Yuck หรือ Gross เป็นต้น
ตัวอย่าง:
Ew, there’s a bug in my salad!
(อี๋ มีแมลงอยู่ในสลัดของฉัน!)
Ew! What’s that smell?
(อี๋! นั่นมันกลิ่นอะไรน่ะ?)
5. Damn it
คำว่า Damn it เป็นคำอุทานภาษาอังกฤษที่เทียบได้กับคำว่า ให้ตายเถอะ หรือ แม่งเอ๊ย ในภาษาไทย มักใช้เมื่อผู้พูดหัวเสีย ไม่สบอารมณ์ หรือไม่ได้ดั่งใจ ในบางครั้งอาจใช้คำว่า Darn it ที่มีความเบากว่าก็ได้เช่นกัน
ตัวอย่าง:
Darn it, I forgot my keys again!
(ให้ตายเถอะ ฉันลืมกุญแจอีกแล้ว!)
Damn it, I missed the last train!
(แม่งเอ๊ย ฉันตกรถไฟเที่ยวสุดท้าย!)
6. Phew
คำว่า Phew เป็นคำอุทานภาษาอังกฤษที่เทียบได้กับคำว่า ฮู่วว ซึ่งเป็นเสียงถอนหายใจในภาษาไทย มักใช้เมื่อผู้พูดเกิดความโล่งใจ สบายใจ หรือเบาใจกับบางสิ่ง แต่ในบางครั้งก็ใช้เมื่ออากาศร้อนก็ได้นะ!
ตัวอย่าง:
Phew, I’m glad that stressful meeting is over.
(ฮู่วว ฉันดีใจมากเลยที่การประชุมสุดเครียดนั้นมันจบลงสักที)
Phew, it’s so hot outside.
(ฮู่วว ข้างนอกมันร้อนมากเลย)
7. Ouch
คำว่า Ouch เป็นคำอุทานภาษาอังกฤษที่เทียบได้กับคำว่า โอ๊ย ในภาษาไทยที่เรามักจะอุทานออกมาเพื่อแสดงความเจ็บปวด มักใช้ร่วมกับเครื่องหมายอัศเจรีย์ ในกรณีที่เราเห็นเหตุการณ์หรืออุบัติเหตุที่ดูน่าเจ็บปวดจนเรารู้สึกเจ็บแทนก็สามารถใช้คำอุทานภาษาอังกฤษคำนี้ก็ได้นะ
ตัวอย่าง:
Ouch, I bit my tongue.
(โอ๊ย ฉันกัดลิ้นตัวเอง)
Ouch, that was a hard fall. Are you okay?
(อูยย ล้มแรงมากเลยนะนั่น เป็นอะไรหรือเปล่า?)
8. Ha
คำว่า Ha เป็นคำอุทานภาษาอังกฤษที่เทียบได้กับคำว่า เป็นไงล่ะ ในภาษาไทย มักจะถูกใช้ในบริบทที่ผู้พูดเป็นผู้ชนะ ใช้เพื่อถ่ายทอดความพอใจหรือความสะใจของผู้พูด
ตัวอย่าง:
Ha! I told you I would win!
(ไงล่ะ! บอกแล้วไงว่าฉันจะชนะ!)
Ha! Victory is mine!
(เป็นไงล่ะ! ชัยชนะเป็นของฉันจ้ะ!)
9. Gosh / Oh my gosh
คำว่า Gosh เป็นคำอุทานภาษาอังกฤษที่เจ้าของภาษาใช้แทนการพูดว่า God โดยตรงเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการพูดถึงพระเจ้าโดยพร่ำเพรื่อ มักใช้เพื่อแสดงถึงความตกใจหรือประหลาดใจของผู้พูด ซึ่งอาจเป็นความตกใจจากเหตุการณ์ในเชิงบวกหรือเชิงลบก็ได้
ตัวอย่าง:
Oh my gosh, I didn’t expect to see you here!
(โอ้ พระเจ้า ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะมาที่นี่ด้วย!)
Gosh, I can’t believe you did that!
(พระเจ้า ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเธอจะทำแบบนั้น!)
10. Oops
คำว่า Oops เป็นคำอุทานภาษาอังกฤษที่เทียบได้กับคำว่า อุ๊ย ในภาษาไทย มักใช้เพื่อแสดงอาการตกใจหรือประหลาดใจแบบเล็กน้อย หรือในกรณีที่เราได้ยินบางคนพูดอะไรแรง ๆ เราก็สามารถใช้คำอุทานภาษาอังกฤษคำนี้ก็ได้นะ!
ตัวอย่าง:
Oops, I dropped my phone!
(อุ๊ย ฉันทำโทรศัพท์ตก)
Oops, that was harsh.
(อุ๊ย แรงมากนะ)
11. Come on
คำว่า Come on เป็นคำอุทานภาษาอังกฤษที่เทียบได้กับคำว่า ไม่เอาน่า หรือ เอาหน่อย ในภาษาไทย มักใช้เมื่อผู้พูดไม่ต้องการให้ใครสักคนยอมแพ้ อาจใช้กับเพื่อน คนสนิท หรือการเชียร์กีฬาก็ได้
ตัวอย่าง:
Come on, just give it a try!
(ไม่เอาน่า ลองดูสักตั้ง!)
Come on, you can do it! Let’s go!
(เอาหน่อย นายทำได้! เอาเลย!)
12. Well now
คำว่า Well now เป็นคำอุทานภาษาอังกฤษที่เทียบได้กับคำว่า แหม ในภาษาไทย มักถูกนำมาใช้ในเชิงหยอกล้อเมื่อผู้พูดสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง หรือจะใช้ Well, well, well ก็ได้เช่นกัน
ตัวอย่าง:
Well now, someone’s been bitten by the lovebug.
(แหม ดูเหมือนใครบางคนกำลัง in love อยู่นะเนี่ย)
Well, well, well, it seems like someone has been up to no good.
(แหม แหม แหม เหมือนว่าใครบางคนจะไปทำอะไรไม่ดีมานะเนี่ย)
เป็นยังไงกันบ้างกับ 10 คำอุทานภาษาอังกฤษ ฮิตติดปากฝรั่ง? English Munmun หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนพอเข้าใจวิธีการและบริบทในการใช้คำอุทานภาษาอังกฤษแต่ละคำและสามารถนำไปใช้ได้อย่างถูกต้องเพื่อให้ภาษาอังกฤษของทุกคนเป๊ะปังขึ้นมาอีกขั้นหนึ่ง แต่เท่านั้นยังไม่พอ! ถ้าทุกคนอยากพูดอังกฤษให้เหมือนฝ.ยิ่งขึ้นไปอีก ลองเข้าไปดูที่ คำสแลงภาษาอังกฤษยอดฮิตฉบับ 2024 ที่พลาดไม่ได้ แล้วลองนำมาใช้ร่วมกันดูนะ!
สรุป
- คำอุทาน คืออะไร?
- คำอุทานภาษาอังกฤษและเครื่องหมายวรรคตอน
- Hm
- Ew
- Damn it
- Phew
- Ouch
- Ha
- Gosh / Oh my gosh
- Oops
- Come on
- Well now
คำศัพท์ที่น่าสนใจในบทความนี้
Punctuation (n.) = เครื่องหมายวรรคตอน
Tongue Tongue (n.) = ลิ้น
Victory (n.) = ชัยชนะ
God (n.) = พระเจ้า
Expect (v.) = คาดหวัง
Harsh (adj.) = รุนแรง
Be up to no good (idiom) = ทำสิ่งที่ไม่ดี
เรียนภาษาอังกฤษสำหรับมือใหม่ ‘เรียนชาตินี้ เก่งถึงชาติหน้า’ ที่ English Munmun กับคอร์สเรียนที่ได้รับการพิสูจน์แล้วจากผู้เรียนกว่า 20,000 คน ว่าพูดได้จริง ไม่ใช่แค่ท่องจำ
วัดระดับภาษาอังกฤษ ฟรี! คลิกที่นี่
สนใจคอร์สเรียน คลิกที่นี่ เพื่อดูรายละเอียดได้เลย
กลับสู่สารบัญ