นอกจากเราจะสามารถฝึกภาษาอังกฤษจากหนังได้แล้ว “เพลงภาษาอังกฤษ” ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนที่เบื่อการเรียนภาษาในห้องเรียนแบบเดิม ๆ เพราะนอกจากทุกคนจะได้ขยายคลังคำศัพท์ของตัวเองกันแล้ว ทุกคนยังได้เรียนรู้วิธีการใช้ภาษาอังกฤษในแบบที่เจ้าของภาษาใช้กันจริง ๆ ด้วย เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าวันนี้ English Munmun ได้เตรียมเพลงอะไรมาฝากทุกคนกันบ้าง!
9 ตัวอย่าง เพลงภาษาอังกฤษ ความหมายดี ฟังง่าย ฝึกภาษาอังกฤษได้ด้วย
1. Morning
Morning เป็นเพลงภาษาอังกฤษที่ร้องโดยคุณ Marc E. Bassy เกี่ยวกับ Unconditional love (รักแบบไม่มีเงื่อนไข) เป็นเพลงแนว Pop ช้า ๆ ที่ทุกคนสามารถฟังและร้องคลอตามได้ง่าย ๆ
ตัวอย่างเนื้อเพลง:
With no makeup on and your eyelash hanging, I would still love you.
ต่อให้คุณไม่แต่งหน้าหรือมีขนตาปลอมห้อยอยู่ ผมก็ยังคงรักคุณอยู่ดี
If you came home late and you kept me waiting, I would still trust you.
ต่อให้คุณกลับบ้านช้าและปล่อยให้ผมรอ ผมก็ยังคงจะเชื่อใจคุณอยู่ดี
ศัพท์น่าสนใจ:
❀ Eyelash (n.) = ขนตา
❀ Trust (v.) = เชื่อใจ
2. Down to Earth
Down to Earth เป็นเพลงภาษาอังกฤษที่ร้องโดยคุณ UMI เกี่ยวกับการตกหลุมรักใครสักคนอย่างลึกซึ้งและการเปิดใจในความสัมพันธ์ เป็นเพลงแนว R&B ที่ออกเสียงค่อนข้างชัดเจน ทุกคนสามารถฟังและเข้าใจได้ง่าย ๆ
ตัวอย่างเนื้อเพลง:
I’m happy we’re grown now.
ฉันดีใจที่เราทั้งคู่ต่างโตขึ้น
Don’t gotta love you on the low now.
ฉันไม่จำเป็นจะต้องรักคุณแบบแอบ ๆ อีกต่อไปแล้ว
ศัพท์น่าสนใจ:
❀ Grown (adj.) = เป็นผู้ใหญ่
❀ Gotta (slang) = จำเป็นต้อง…
❀ On the low (idiom) = อย่างไม่เปิดเผย
3. Sun Goes Down
Sun Goes Down เป็นเพลงภาษาอังกฤษที่ร้องโดยคุณ Lil Nas X ที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ Suicidal Thoughts (ความคิดเกี่ยวกับการฆ่าตัวตาย) ของตัวเขาเองและส่งกำลังใจผ่านบทเพลงให้กับผู้ฟังที่อาจกำลังเผชิญกับความรู้สึกหรือเหตุการณ์ที่คล้ายกันผ่านบทเพลงนี้ เป็นเพลงแนว Alternative/Indie, Pop และ Hip-Hop/Rap ที่ไม่ช้าหรือเร็วเกินไปแถมความหมายดีด้วยนะ
ตัวอย่างเนื้อเพลง:
It’s hard for you when you’re fighting, and nobody knows it when you’re silent.
มันเป็นเรื่องยากเวลาที่เรากำลังสู้กับอะไรบางอย่างอยู่ และก็ไม่มีใครรู้เพราะว่าเราไม่ได้พูดอะไร
ศัพท์น่าสนใจ:
❀ Silent (adj.) = เงียบ
4. Older
Older เป็นเพลงภาษาอังกฤษที่ร้องโดยคุณ Sasha Alex Sloan เกี่ยวกับการทำความเข้าใจความรักและมุมมองต่อมันที่เปลี่ยนแปลงไปเมื่อเราโตขึ้น เป็นเพลงแนว Electropop สบาย ๆ ง่ายต่อการฟัง
ตัวอย่างเนื้อเพลง:
The older I get, the more that I see. My parents aren’t heroes, they’re just like me.
ยิ่งฉันโตขึ้นเท่าไหร่ ฉันก็ยิ่งเข้าใจมากขึ้น พ่อแม่ของฉันไม่ใช่ฮีโร่ พวกเขาก็แค่คนธรรมดา ๆ เหมือนกันกับฉัน
ศัพท์น่าสนใจ:
❀ The more…the more/less… (phrase) = ยิ่ง…ยิ่ง…
5. It’ll Be Okay
It’ll Be Okay เป็นเพลงภาษาอังกฤษที่ร้องโดยคุณ Shawn Mendes เกี่ยวกับการยอมรับที่จะต้องจบความสัมพันธ์กับคนรัก เป็นเพลงแนว Pop เศร้า ๆ ช้า ๆ เรียกน้ำตาสำหรับคนที่อาจจะกำลังอกหักกันเลยทีเดียว
ตัวอย่างเนื้อเพลง:
If we can’t stop the bleeding, we don’t have to fix it. We don’t have to stay.
ถ้าเราทำอะไรกับปัญหานี้ไม่ได้ เราก็ไม่จำเป็นจะต้องแก้ไขมัน เราไม่จำเป็นจะต้องอยู่ต่อในความสัมพันธ์
ศัพท์น่าสนใจ:
❀ Bleeding (n.) = การเสียเลือด (ในบทเพลง คำนี้เปรียบเสมือนปัญหาที่ทำร้ายความรู้สึกของทั้งสองคนในความสัมพันธ์)
❀ Fix (v.) = แก้ไข
❀ Stay (v.) = อยู่ต่อ
6. Out of Time
Out of Time เป็นเพลงภาษาอังกฤษที่ร้องโดย The Weeknd เกี่ยวกับผู้ชายคนหนึ่งที่นึกย้อนความหลังของความสัมพันธ์และตระหนักได้ว่าเขาควรปฏิบัติกับคนรักของเขาให้ดีกว่านี้ แต่มันสายไปแล้ว เป็นเพลงแนว R&B/Soul, Alternative/Indie และ Electronic มีศัพท์น่าสนใจหลายคำในเพลงนี้และเพลงก็ไม่ช้าไม่เร็วเกิน ทำให้ฟังง่ายไม่น่าเบื่อด้วยนะ
ตัวอย่างเนื้อเพลง:
You begged me with your drowning eyes to stay.
คุณอ้อนวอนทั้งน้ำตาให้ผมอยู่ต่อ
Gimme one chance, just a little, baby, I’ll treat you right.
ให้โอกาสผมสักครั้งหน่อยนะที่รัก ผมจะปฏิบัติกับคุณอย่างถูกต้อง
ศัพท์น่าสนใจ:
❀ Beg (v.) = อ้อนวอน
❀ Treat (v.) = ปฏิบัติต่อ…
7. Just the Way You Are
Just the Way You Are เป็นเพลงภาษาอังกฤษที่ร้องโดยคุณ Bruno Mars เกี่ยวกับการรักและยอมรับคนรักในแบบที่เธอเป็น เป็นเพลงแนว Pop, R&B และ Soft Rock ที่ค่อนข้างเร็ว แต่ออกเสียงชัดเจน ทำให้เราสามารถฟังและสนุกกับเพลงได้ง่าย
ตัวอย่างเนื้อเพลง:
When I compliment her, she won’t believe me.
เมื่อไหร่ที่ผมชมเธอ เธอก็จะไม่เชื่อผม
And it’s so, it’s so sad to think that she don’t see what I see.
แล้วมันก็…มันก็น่าเศร้ามากเวลาที่ผมคิดว่าเธอนั้นมองไม่เห็นในสิ่งที่ผมเห็น
ศัพท์น่าสนใจ:
❀ Compliment (v.) = กล่าวชม
❀ Believe (v.) = เชื่อ
8. Falling like the Stars
Falling like the Stars เป็นเพลงที่ร้องโดยคุณ James Arthur เกี่ยวกับการตกหลุมรักใครสักคนและการเอาชนะอุปสรรคไปด้วยกัน เป็นเพลงแนว Electropop ที่มีความหมายดีมาก ๆ ฟังง่าย และคำศัพท์ไม่ยากเกินไป เป็นเพลงภาษาอังกฤษที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองมาก ๆ เลยละ
ตัวอย่างเนื้อเพลง:
And I’m not scared to say those words, with you, I’m safe.
และผมก็ไม่กลัวที่จะพูดคำเหล่านั้นเพราะผมรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่กับคุณ
We’re falling like the stars. We’re falling in love.
พวกเราตกหลุมรักกันราวกับดวงดาวที่ตกลงมาจากฟ้า พวกเราตกหลุมรักกัน
ศัพท์น่าสนใจ:
❀ Scared (adj.) = กลัว
❀ Safe (adj.) = ปลอดภัย
❀ Fall in love (idiom) = ตกหลุมรัก
9. Scars to Your Beautiful
Scars to Your Beautiful เป็นเพลงภาษาอังกฤษร้องโดยคุณ Alessia Cara เกี่ยวกับการรักตัวเองในแบบที่ตัวเองเป็นโดยไม่ต้องเสริมเติมแต่งอะไร เป็นเพลงแนว Pop ที่ส่งเสริมให้ทุกคนโอบกอดความไม่สมบูรณ์แบบของตัวเอง และมองว่าสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องธรรมดานั่นเอง เพลงนี้มีศัพท์ที่น่าสนใจเหมาะกับคนที่ต้องการเพิ่มคลังศัพท์ของตัวเองมาก ๆ เลยละ
ตัวอย่างเนื้อเพลง:
ศัพท์น่าสนใจ:
❀ World (n.) = โลก (ในบทเพลง คำนี้เปรียบเสมือนคนอื่น ๆ บนโลก)
❀ Scar (n.) = รอยแผลเป็น
❀ Beautiful (adj.) = สวยงาม
10. เทคนิคเลือกเพลงภาษาอังกฤษไว้ฝึก
10.1 เลือกจากแนวเพลงที่เราชอบ
การเริ่มต้นเรียนรู้จากความสนใจของเราเป็นสิ่งสำคัญ เพราะการเลือกแนวเพลงภาษาอังกฤษที่เราชอบจะไม่ทำให้เราเบื่อหรือถอดใจ แถมยังช่วยกระตุ้นความสนใจในตัวเรา ทำให้เรามีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้มากขึ้น
10.2 เลือกความเร็วของเพลงให้เหมาะกับระดับภาษา
แน่นอนว่าเราจะต้องหาให้เจอว่าระดับภาษาเราอยู่ที่ประมาณไหน อาจลองเริ่มจากการฟังดูคร่าว ๆ ว่าเราพอจะฟังออกว่าคำนั้นคือคำว่าอะไรมากน้อยแค่ไหน โดยที่เราไม่จำเป็นจะต้องรู้ศัพท์หรือฟังทันทุกคำ ปล่อยให้ที่เหลือเป็นส่วนของการเรียนรู้จากเพลงที่เราเลือกเอง
10.3 เลือกเพลงภาษาอังกฤษที่มีเนื้อร้องค่อนข้างติดหู
การเลือกเพลงที่ค่อนข้างติดหู โดยอาจจะมีการร้องซ้ำ ๆ กันในหลาย ๆ ท่อนจะทำให้เราสามารถจำศัพท์และความหมายของคำนั้น ๆ ได้ง่ายขึ้นโดยที่เราแทบจะไม่ต้องพยายามเลย
ข้อควรระวัง:
การฝึกภาษาอังกฤษจากเพลงมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือเราจะได้เรียนรู้ศัพท์ สำนวน หรือสแลงใหม่ ๆ ที่เจ้าของภาษานั้นมักจะใช้กัน ทำให้เวลาเรานำไปใช้ในการสื่อสารระดับทั่ว ๆ ไป ภาษาอังกฤษของเราจะมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น ในส่วนของข้อเสียคือ หลาย ๆ เพลงภาษาอังกฤษมักจะไม่ตรงตามหลักการใช้ไวยากรณ์ที่ถูกต้องดังที่เราอาจจะได้เห็นกันจากเนื้อเพลงบางส่วนที่ English Munmun ได้ยกมาให้ดู ทั้งนี้ก็เพื่อความคล้องจองหรือสัมผัสต่าง ๆ ของเพลง ดังนั้น อาจไม่เหมาะกับการนำไปใช้ในบริบทที่ต้องการความเป็นทางการสูง
สรุป
- เลือกเพลงจากแนวเพลงที่เราชอบ
- เลือกความเร็วของเพลงให้เหมาะกับระดับภาษาอังกฤษของเรา
- เลือกเพลงภาษาอังกฤษที่มีเนื้อร้องค่อนข้างติดหูเพื่อการจำศัพท์ได้ง่ายขึ้น
20 ตัวอย่าง คำอวยพรภาษาอังกฤษ พร้อมคำแปล นำไปใช้กันในโอกาสพิเศษต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคำอวยพรวันปีใหม่ คำอวยพรวันเกิด คำอวยพรเดินทางปลอดภัย หรือคำอวยพรทั่วไปได้เลย!
20 คำสแลงภาษาอังกฤษ (English Slang) ที่จะช่วยให้ทุกคนพูดอังกฤษได้ เป๊ะ ปั๊วะ ปัง เหมือนกับเจ้าของภาษามากขึ้นไปอีกขั้น!
20 แคปชันภาษาอังกฤษ สาย Selfie สายฮา สายโสด หรือสายลึกซึ้งก็มีครบให้ทุกคนได้เอาไปใช้ ไม่ต้องมานั่งคิดให้ปวดหัว!
เรียนภาษาอังกฤษสำหรับมือใหม่ ‘เรียนชาตินี้ เก่งถึงชาติหน้า’ ที่ English Munmun กับคอร์สเรียนที่ได้รับการพิสูจน์แล้วจากผู้เรียนกว่า 20,000 คน ว่าพูดได้จริง ไม่ใช่แค่ท่องจำ
วัดระดับภาษาอังกฤษ ฟรี! คลิกที่นี่
สนใจคอร์สเรียน คลิกที่นี่ เพื่อดูรายละเอียดได้เลย
กลับสู่สารบัญ